วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กล้วยไม้ตาดโตน ตอนที่ 1 (26 มกราคม 2557)

     เริ่มต้นจากครั้งก่อน (13 ตุลาคม 2556) ผมได้กำหนดพื้นที่ในการออกสำรวจพันธุ์กล้วยไม้ป่าในธรรมชาติ  ซึ่งจำเป็นที่จะต้องออกสำรวจทุก ๆ เดือน จึงทำให้การเดินทาง (26 มกราคม 2557) เกิดขึ้นอีกครั้ง  แต่กลับไม่ได้มุ่งตรงไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามแต่อย่างใด  ด้วยกริ่งเกรงใจคนข้าง ๆ ที่เค้าไม่ได้ชื่นชอบกล้วยไม้แบบเรา  แต่ก็ยังอุตส่าห์ตามไปด้วยทุกที่  ด้วยเหตุผลอย่างนี้จึงทำให้ต้องเลือกอุทยานแห่งชาติตาดโตน  เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก  ร้านค้า  ร้านอาหาร  ร้านกาแฟ  และที่สำคัญน้ำตกมีน้ำไหลตลอดปี  เนื่องจากมีเขื่อนอยู่บริเวณต้นน้ำนั่นเอง

     เกริ่นมาเสียนานมาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ  ผมเคยมาสำรวจที่นี่หลายครั้งแล้ว  และพอจะจำหมายกล้วยไม้ได้บ้าง  อย่างเขาแพะและตาลหินที่เคยได้มาเจอครั้งก่อนบริเวณลานกางเต็นท์  เชื่อมั้ยครับว่าแค่สองต้นนี้แหละที่ทำให้ผมตัดสินใจถ่อมากว่า 140 กม. เพียงเพื่อหวังว่าจะได้ยลโฉมสคราญเจ้าอีกสักครา  แต่ไม่ (ที่จริงคือ ม๊าาาายยยย) ผมเจอต้นของเขาแพะ  แต่เค้าไม่มีดอกช่วงนี้  มองไปบนต้นไม้ก็เจอกล้วยไม้ขึ้นขนัดอยู่บนคาคบไม้  แต่ก็ไม่มีดอกช่วงนี้เหมือนกัน  เมื่อเป็นแบบนี้ผมจึงต้องเลือกเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งต่อจากนี้ผมจะเรียกว่า เทรล 1 เผื่อจะมีโอกาสได้เห็นกล้วยไม้สักชนิดที่กำลังผลิดอกบ้าง
Vanda lilacina เข็มขาว,กล้วยไม้หางปลา

     ตลอดเส้นทางของเทรล 1 ไม่มีอะไรนอกจากไม้ยืนต้นกับเส้นทางที่ถูกสร้างไว้อย่างดี  สายลมหน้าหนาวยังคงห่มคลุมทั่วทั้งผืนป่าทำให้ผมกับแฟนไม่ได้รู้สึกว่าร้อนอะไรมากนัก  เดินไปไกลจนผมแทบถอดใจว่าคงไม่ได้เจออะไรแน่ ๆ เลย  นอกจากต้นกล้วยไม้ที่อยู่นอกช่วงฤดูดอก  ทั้งกะเรกะร่อน กุหลาบเหลืองโคราช  แต่จะด้วยเมตตาจากเจ้าป่าเจ้าเขาหรือโชคชะตาที่นำพาให้เราต้องมาเจอ  สายตาผมก็กวาดไปเห็นดอกสีขาว ๆ เล็ก ๆ บนต้นไม้เข้าจนได้  กล้วยไม้ที่อวดดอกให้ได้เห็นชนิดแรกนี้ก็คือเข็มขาวดอกเล็ก ๆ เพียง 3 ดอกที่น่าจะหลงฤดูบานในช่วงนี้  เจ้าต้นนี้ผมเคยปลูกเลี้ยงไว้ที่บ้าน  แต่ด้วยปัญหาบางอย่างทำให้ผมต้องย้ายเค้าไปไกลตัวและจำต้องอยู่กับผู้ที่ไม่เคยเข้าใจเค้า  จนตอนนี้เค้าได้ลาจากโลกนี้ไปเสียแล้ว
     ไม่นานจากกล้วยไม้ต้นแรกที่พบ  ด้วยความบังเอิญในขณะที่ผมเอี่ยวซ้ายป่ายขวามองหาจุดสังเกตุต่าง ๆ ที่พอจะทำได้  แฟนผมก็หยุดหันมาคุยด้วย  จากการพูดคุยที่ต้องมองหน้ากันวินาทีนั้นผมก็เหลือบไปเห็นดอกไม้ขนาดเล็กที่มีลักษณะแปลกไปกว่ากล้วยไม้ชนิดอื่นใด  นั่นก็คือไม่มีลำลูกกล้วยไม้ที่จะทำให้เรียกว่ากล้วยไม้ได้  เพราะสิ่งที่เห็น ณ ตอนนั้นคือราก..ราก..ราก..และดอกเท่านั้น ด้วยลักษณะพิเศษแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “พญาไร้ใบ” นั่นเอง 
Chiloschista parishii พญาไร้ใบ

     ด้วยความแปลกของเจ้าต้นนี้ก็คือ ทั้งต้นมีเพียงรากกับดอกเท่านั้นให้เห็น (อย่างในภาพนี้เลยจริง ๆ นะ) ดอกมีขนาดเล็กเพียงแค่ 1.5 ซม.  ภาพนี้ต้องใช้ท่อมาโครต่อเข้ากับ70-300ถึงจะได้ภาพนี้มา  เล็งแล้ว เล็งอีก ส่องแล้ว ส่องอีก จนคนที่ไปด้วยถามว่าทำไมถ่ายนานจัง  ก็มันยังไม่ได้ใจน่ะ เคยเป็นกันมั้ยครับ ที่ว่าทำไปแล้วมันยังไม่ใช่น่ะ  นั่นแหละอารมณ์ผมตอนนั้น
Chiloschista parishii พญาไร้ใบ
     ขนาดต้นและดอกเทียบกับนิ้วมือครับ  สรุปทริปนี้เจอกล้วยไม้เพียงแค่ 2 ชนิด  แต่โดนใจสุด ๆ เพราะได้เห็นดอกของพญาไร้ใบ  ส่วนหมายกล้วยไม้ก็ได้มาเพิ่ม  ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไม้สกุล Vanda sp. ที่มีอยู่มากบนคาคบไม้บริเวณลานกางเต็นท์  เขาแพะ (Cleisostoma sp.) ตรงต้นไม้ปากทางเข้าเทรล 1 เอื้องกุหลาบเหลืองโคราช (Aerides houlettiana) บริเวณก่อนถึงจุด
เจอพญาไร้ใบ และกล้วยไม้ดินที่เหลือเพียงช่อดอกที่ติดฝักจนแห้งกรอบบริเวณเดียวกันกับที่เจอพญาไร้ใบ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก